วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สมาชิก

สมาชิกในกลุ่ม
1.นางสาวพาทินนุช  บุญโจม  เลขที่ 32
2.นางสาวขนิษฐา     จูมลี   เลขที่  45

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1




ความหมายของงานประดิษฐ์

ความหมายของงานประดิษฐ์




       ความหมายของงานประดิษฐ์
       งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ
       
        ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย
2. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
3.  ความเพลิดเพลิน
4.  เพิ่มคุณค่าของวัสดุ
5.  สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม
6.  ชิ้นตรงตามความต้องการ
7.  เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น
8.  เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว
9.  เกิดความภูมิใจในตนเอง
      
        ประโยชน์ของงานประดิษฐ์
1. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
2. มีความภูมิใจในผลงานของตน
3. มีรายได้จากผลงาน
4. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ 
5. เป็นการฝึกให้รู้จักสังเกตสิ่งรอบๆ ตัว และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

         ลักษณะของงานประดิษฐ์


       1. งานประดิษฐ์ทั่วไป เป็นงานที่บุคคลสร้างขึ้นมาจากความคิดของตนเองโดยอาศัยการเรียนรู้จากสิ่งรอบๆ ตัว นำมาดัดแปลง หรือเรียนรู้จากตำรา เช่น การประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ การประดิษฐ์ดอกไม้

       2. งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย เป็นงานที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษในครอบครัวหรือในท้องถิ่น หรือทำขึ้นเพื่อใช้งานหรือเทศกาลเฉพาะอย่าง เช่น มาลัย บายศรี งานแกะสลัก 
         วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานประดิษฐ์
         การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในการประดิษฐ์ชิ้นงานต้องเลือกให้เหมาะสมจึงจะได้งานออกมามีคุณภาพ สวยงาม รวมทั้งต้องดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้เหล่านี้ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ตลอดเวลา และสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้

       1. ประเภทของเล่น
วัสดุที่ใช้ เช่น กระดาษ ใบลาน ผ้า เชือก พลาสติก กระป๋อง
อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น กรรไกร เข็ม ด้าย กาว มีด ตะปู ค้อน แปรงทาสี
       2. ประเภทของใช้
วัสดุที่ใช้ เช่น กระดาษ ไม้ โลหะ ดิน ผ้า
อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น เลื่อย สี จักรเย็บผ้า กรรไกร เครื่องขัด เจาะ
       3. ประเภทของตกแต่ง
วัสดุที่ใช้ เช่น เปลือกหอย ผ้า กระจก กระดาษ ดินเผา
อุปกรณ์ เช่น เลื่อย ค้อน มีด กรรไกร สี แปรงทาสี เครื่องตอก
       4. ประเภทเครื่องใช้ในงานพิธี
วัสดุที่ใช้ เช่น ใบตอง ดอกไม้สด ใบเตย ผ้า ริบบิ้น
อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น เข็มเย็บผ้า เข็มร้อยมาลัย คีม ค้น เข็มหมุด


วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความหมายของดอกไม้ประดิษฐ์

       ดอกไม้ประดิษฐ์
       


       ดอกไม้ประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งประดิษฐ์ขึ้นจากวัสดุมีลักษณะคล้ายรูปร่างดอกไม้ ที่ถูกผลิตขึ้นมาจากแรงงานฝีมือมนุษย์ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์การผลิต โดยมีการใช้วัตถุดิบการผลิตจากธรรมชาติ หรือวัตถุดิบที่เกิดจากการสังเคราะห์มาผลิตโดยผ่านขั้นตอนการประดิษฐ์ ดัดแปลง อบ ย้อม เผา เคลือบสารเคมี รวมทั้งทำการตกแต่งตัดต่อเติม เพื่อก่อให้เกิดความสวยงาม โดยดอกไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาอาจจะมีความเหมือนหรือไม่เหมือนธรรมชาติก็ได้ขึ้นกับวัตถุประสงค์การใช้งาน โดยคุณสมบัติของดอกไม้ประดิษฐ์ที่สำคัญคือ มีความคงทน ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและดูแลรักษา มีความสวยงาม สามารถนำไปใช้ในการประดับในโอกาสต่างๆ
       การประดิษฐ์ดอกไม้ด้วยฝีมือมนุษย์เป็นศิลปะที่มีความละเอียดอ่อน มุ่งหวังที่จะดำรงความงดงามตามธรรมชาติของดอกไม้ให้คงอยู่ ไม่ร่วงโรย เหี่ยวเฉา การทำดอกไม้ประดิษฐ์ จึงเริ่มต้นที่การใช้ความสังเกต ศึกษา ค้นคว้า รูปลักษณะ สีสันตามธรรมชาติ ของดอกไม้แต่ละชนิด แต่ละประเภท แล้วถ่ายทอดการทำออกมาเป็นดอกไม้ประดิษฐ์ ดอกไม้ประดิษฐ์ อาจถือได้ว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของบางชนชาติ ที่มีการสืบทอดการประดิษฐ์ดอกไม้มายาวนาน
       

       ดอกไม้ประดิษฐ์   มีความหมายว่า สิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ที่ปรดิษฐ์ขึ้นด้วยฝีมือ โดยเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัย และ เทคนิคต่างๆ โดยได้นำวัตถุดิบที่นำมาจากธรรมชาติ ซึ่งนำมาสังเคราะห์ผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น อบแห้ง เผา ย้อม เคลือบสีต่างๆ รวมไปถึงการใช้สารเคมีต่างๆที่ช่วยให้ ดอกไม้ประดิษฐ์มีความสมจริงคล้ายกับดอกไม้จริงมากที่สุด ซึ่งมนุษย์นั้นจะนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ซึ่งได้รับความนิยมมาก เหตุผลเพราะว่า มีความคงทนสูง มีความสวยงาม บางทีงามกว่าของจริงอีก และ ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาอังไร เหมาะกับนำไปใช้ในการต่างๆ แล้วแต่โอกาส

        ดอกไม้ประดิษฐ์   นั้นต้องทำโดยมือคน 100% ซึ่งจะทำให้เกิดความสวยงามถึงขีดสุด ในปัจจุบันนี้คนรุ่นหลังได้รับการสืบทอดการทำดอกไม้ประดิษฐ์มาจากรุ่นบรรพบุรุษ ซึ่งสืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน หัวดอกไม้ต่างๆที่ประดิษฐ์ขึ้นมาทำให้เกิดธุรกิจขายส่งดอกไม้ประดิษฐ์หลายเจ้า ซึ่งความเก่าแก่ยาวนาน และ เป็นศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยผู้ที่ศึกษานั้นจำเป็นจะต้องมีความสนใจเป็นพิเศษโดยแท้จริง ต้องทำการ ค้นคว้า ศึกษา หาความรู้ในด้านดอกไม้ประดิษฐ์ให้มากที่สุด ซึ่งหาสอนได้ยาก เพราะ เป็นวิชาชีพเฉพาะ และ คนรุ่นใมมนั้นให้ความสนใจกันน้อย แต่หากสามารถนำไปทำในขั้นวิชาชีพแล้ว เป็นงานที่รายได้ดีทีเดียว หากฝีมือดีออกแบบได้เก่ง โอกาศรวยก็มาก ซึ่งขั้นตอนการทำดอกไม้ประดิษฐ์นั้นก็มีหลากหลายขั้นตอนมาก แต่ละสำนักก็สอนไม่เหมือนกัน ทำให้เป็นเสน่ห์อย่างมากของวงการนี้ รวมไปถึงวัตถุดิบที่แต่ละโรงงานก็ต่างกัน ดีไม่เหมือนกัน ขายส่งดอกไม้ประดิษฐ์เป็นธุรกิจใหญ่ในปัจจุบันไปแล้ว เพราะ หัวดอกไม้ประดิษฐ์นั้นมาแรงมากในเวลานี้ ก็ขอให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจวิชาชีพดอกไม้ประดิษฐ์กันหน่อยอย่าละเลยหรือดูถูกค่ะ
 
ดอกไม้ประดิษฐ์คืออะไร ทำไมต้องมี ?

        ดอกไม้ประดิษฐ์   เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อทดแทนดอกไม้สด หรือ ดอกไม้จริง ซึ่งจะสร้างมาให้คล้ายครึงกับดอกไม้จริงมากที่สุด ซึ่งวัตถดิบที่ใช้นั้น มีทั้ง ย้อย อบ ดับแปลสี ทั้งจากผ้า หรือ ดอกไม้จริง ซึ่งมาหลากหลายวิธีมาก ซึ่งเอกลักษณ์ที่เด่นชัดของมันคือ มีความคงทน ถาวร ไม่เสีย หรือ เน่า นั้นเอง ทำให้เหมาะกับนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ดอกไม้ประดิษฐ์นั้นสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งมนุษย์นั้นได้เริ่มค้นคว้า ดัดแปลง พัฒนามาโดยตลอด โดยปัจจุบันถึงขนาดมีโรงเรียนสอนประดิษฐ์ดอกไม่ประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อเป็นแนวทางอาชีพแก่คนรุ่นต่อๆไป รวมทั้งธุรกิจดอกไม้ประดิษย์นั้นเริ่มเติบโตขึ้น ทำให้เกิดการขายส่งเป็นโรงงานใหญ่โต ซึ่งได้พัฒนาประยุกต์ไปถึง การผลิตหัวดอกไม้ เพื่อการใช้งานในรูปแบบต่างๆ
ดั่งเช่นที่เราจะเห็ฯได้ง่ายๆคือ พวงหรีดตามงานศพ จะใช้ดอกไม้ประดิษฐ์กันมากขึ้น เพราะ ใช้งานง่าย ไม่เหี่ยวเฉา รวมถึงไม่มีแมลงมาเกาะให้รำคาญ รวมไปถึงหัวดอกไม้ต่างๆ ที่มักจะนิยมเอาไปประดับบนร่างกายของคนเรา หรือ สิ่งของ ทำให้เจ้าธุรกิจในตลาดนี้เติบโตขึ้นมาก จากเมื่อก่อนขายกันเล็กๆ ขายปลีก ปัจจุบัน ทุกวันนี้เกิดการขายส่งกันอย่างล้นหลาม ทำให้ธุรกิจเกิดโวลุมมาก ซึ่งหากจะมองไปถึงอนาคต ธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์นั้นยังต้องเติบโตอีกมาก เพราะ ความต้องการที่มากขึ้นตามงานต่างๆ ทั้งงานแต่ง งานฉลอง งานสังสรรค์ และ อื่นๆอีกมาก
วัตถุดิบอุปกรณ์หลักๆที่มักจะใช้ในการประดิษฐ์ดอกไม้ประดิษฐ์ หรือ หัวดอกไม้ เช่น ผ้าออร์แกนซา ผ้ามัสลิน ผ้าแพรเยื่อไม้ ผ้ากำมะหยี่ ผ้าฝ้าย ผ้าสักหลาดหลากๆหลายชนิด และผ้าอื่นๆอีกมาก รวมไปถึงกระดาษชนิดต่างๆ เช่น กระดาษสา กระดาษย่น รวมไปถึง กระดาษอื่นๆอีกมาก ซึ่งปัจจุบันกระดาษนั้นเกิดให้หลากหลายชนิดสามารถนำมาใช้ในงานดอกไม้ประดิษฐ์ได้มาก
ซึ่งงานฝีมือในปัจจุบัน ทั้งใน และ นอกหลักสูตรของเมืองไทย จะต้องมีหลักสูตรดอกไม้ประดิษฐ์ หรือ การประดิษฐ์หัวดอกไม้ควบคู่กันไป เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้ก้าวสู่วิชาชีพอย่างยั่งยืนค่ะ

ความรู้ทั่วไป
การประดิษฐ์ดอกไม้เป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ผู้ประดิษฐ์จะต้องเป็นผู้ที่มีความรักในศิลปะด้านนี้เนื่องจากเป็นงานที่ต้องใช้ความพยายาม อดทน รักความสะอาด และเป็นคนช่างสังเกต เนื่องจากดอกไม้มีอยู่ทั่วไป                
การประดิษฐ์ดอกไม้สามารถการประดิษฐ์ได้จากวัสดุต่างๆ หลายอย่าง เช่น ประดิษฐ์จากผ้า ใบบาง เปลือกข้าวโพด เปลือกหอย เกล็ดปลา รังไหม ฯลฯ ที่สามารถประดิษฐ์เป็นดอกไม้ชนิดเดียวกันได้ แต่ในเอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ผู้จัดทำประดิษฐ์ดอกไม้จากกระดาษย่นเคลือบพาราฟิน เพื่อให้งานที่ประดิษฐ์จากกระดาษย่นอยู่ได้ทนนานกว่าเดิม การแบ่งกลุ่มของดอกไม้สามารถแบ่งกลุ่มได้หลายรูปแบบ แต่ในเล่มนี้ขอแบ่งกลุ่มดอกไม้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
·         ดอกไม้กลีบลา คือ ดอกไม้ที่มีลักษณะกลีบชั้นเดียว
·         ดอกไม้กลีบซ้อน คือ ดอกไม้ที่มีลักษณะกลีบซ้อนกันตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป
·         ดอกไม้ทรงกระบอก คือ ดอกไม้ที่มีรูปทรงกระบอกขึ้นไปก่อนจึงมีกลีบดอกบานที่ส่วนปลายดอก

·         ดอกกล้วยไม้ คือ ดอกไม้ที่มีลักษณะแตกต่างไปจากดอกไม้ชนิดอื่นๆ 


วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

ดอกมะลิจากกระดาษย่น

ดอกมะลิจากกระดาษย่น

อุปกรณ์
1.            กระดาษย่นสีขาว
2.            เทปกาวย่นสีเขียว
3.            ลวด หรือ ก้านไม้กวาดทางมะพร้าว      
4.            กรรไกร    
5.            เข็มกลัด    
6.            เส้นด้าย  



วิธีทำดอกมะลิ  
1.  ตัดกระดาษตามขวางขนาดให้มีขนาดยาวพอดี  ดึงกระดาษให้ยึดออก  เพื่อเพิ่มความยาวของกระดาษ
2.  พับที่ปลายมุมกระดาษ 1 ครั้ง เล็กน้อย  และพับกระดาษต่ออีก 1ครั้ง  คือในการพับปลายมุมกระดาษเราจะพับมุมอยู่ 2ครั้ง
3.  ใช้นิ้วโป่งขวากดกระดาษพับลงมาที่นิ้วโป้งซ้าย  ใช้นิ้วโป้งซ้ายกดไว้ แล้วใช้นิ้วขวาบิดขึ้นไป จะได้กลีบแรก 

4. ทำข้อ 4-5 ไปเรื่อยๆจนถึงปลาย

7. นำกระดาษที่พับได้มาพันเข้าดอก โดยใช้ลวดท้ายพันใส่ลวดไว้เป็นแกนก่อน โดยพับครึ่งเส้นลวดแล้ววางคร่อมบนกลีบหัวกระดาษ จากนั้นม้วนกระดาษพันไปรอบๆ แล้วมัดด้ายไว้ให้ดอกติดอยู่กับก้าน  
8.  จัดกลีบดอกมะลิให้สวยงาม







วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ดอกกุหลาบจากกระดาษย่น

ดอกกุหลาบจากกระดาษย่น

       กุหลาบแดงสื่อแห่งความรัก ^_^  นี้เราจะนำเสนอขั้นตอนการทำดอกกุหลาบง่ายๆ จากกระดาษย่นกันค่ะ
      
       เริ่มจากอุปกรณ์การทำดอกกุหลาบกันก่อนเลย


·         กระดาษย่นหนึ่งหน้าหรือสองหน้าสีที่ต้องการ

·         ใบสำเร็จรูป

·         ก้านดอกสำเร็จรูปหรือ จะใช้ลวดแทนก็ได้

·         เทปพันก้านดอก หรือ ฟอรัลเทปสีเขียวแก่

·         ด้าย

·         กรรไกร
·         กระดาษแข็ง
        .         ดินสอ

             
        .         ยางลบ

1.  วาดแบบให้เป็นรูปหัวใจ  ให้ได้  3  ขนาด

2.  นำแบบที่วาด  มาทาบลงบนกระดาษย่น (สีอะไรก็ได้ตามใจชอบ)
  จากนั้นตัดตามแบบที่ใช้ทาบ  ให้ครบทั้งสามแบบ 
           ขนาดที่ 1  จะใช้  3 ดอก
           ขนาดที่ 2  จะใช้  4-5 ดอก
           ขนาดที่ 3  จะใช้เท่าไรก็ได้ตามชอบ  ขึ้นอยู่กับขนาดของดอกกุหลาบ 
 


3.  ตัดกระดาษตามทางขวางความยาวพอประมาณ  จากนั้นนำกระดาษมาพันให้เป็นรูปกรวย  แต่งรูปกรวยให้ตูมๆ  เหมือนดอกกุหลาบด้านใน


4.  ตัดลวดให้มีความยาวตามต้องการและให้ตัดเผื่อเวลาเกลียวลวด
จากนั้นนำดอกกุหลาบด้านในที่ทำเสร็จแล้ว  ใช้ลวดจัดรูปทรงให้สวยงาม แล้วใช้ด้ายดอกเพื่อเตรียมทำขั้นต่อไป  โดยให้เหลือด้ายไว้มัดกลีบดอกกุหลาบด้วย  จะไว้ยาวเท่าไรก็ได้  ยิ่งยาวยิ่งดีเผื่อดอกกุหลาบที่ทำนั้นมีขนาดใหญ่

6.  ทำกลีบดอกมาใช้กับตัวดอกทำไปเรื่อยๆจากขนาดที่ 1 ,2 จนถึงขนาดที่ 3

      ซ้อนเป็นชั้นๆ สับหว่างกันไป เริ่มจากลีบที่มีขนาดเล็กก่อน แล้วค่อยตามด้วยกลีบขนาดใหญ่ตามขนาดที่ต้องการ




7.  ตัดกระดาษเพื่อทำกลีบเลี้ยง  โดยตัดกระดาษตามเส้นของกระดาษ  จากนั้นก็ตัดกระดาษให้คล้ายกับหญ้าแต่ตัดแค่ 4 แฉกก็พอ
พอได้กลีบเลี้ยงแล้วก็นำมาติดใต้ดอกกุหลาบ
8.  ทำก้านดอกกุหลาบ  โดยตัดกระดาษตามทางขวางให้มีความยาวมากๆ เข้าไว้  เพื่อใช้พันรอบลวด  แต่ความสูงไม่ต้องมากนัก  สูงเล็กน้อยก็พอ  ดึงกระดาษให้ยืดออกเพื่อเพิ่มความยาวให้กับกระดาษ  
จากนั้นทากาวกระดาษย่น  แล้วนำมาพันรอบลวด



9.  ทำใบประกอบก้าน  ก่อนอื่นตัดกระดาษให้มีรูปร่างคล้ายใบ  แยกเป็นคู่ๆ  และมีขนาดใบเท่ากัน  ตามจำนวนที่ต้องการ  1 คู่เป็น 1 ใบ


11.  นำก้านใบมาประกอบกับตัวดอก  จากนั้นก็จัดกลีบกุหลาบให้สวยงาม

เราก็จะได้ดอกกุหลาบ ที่เป็นฝีมือเราเอง ^_^ จะทำหลายๆ ดอกแล้วนำมาประกอบกันเป็นช่อก็ได้

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ความหมายของดอกกุหลาบ




          เคยได้ยินคำเปรียบเปรยไหมที่ว่า ผู้หญิงสวยแต่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมก็เปรียบได้ดัง "ดอกกุหลาบ" เพราะดอกกุหลาบนั้น แม้
จะมีรูปร่างภายนอกที่สวยงามรวมถึงกลิ่นที่หอมชวนดม แต่มันก็มีหนามแหลม หากไม่ระวังอาจโดนบาดได้ง่าย ๆ

          กุหลาบนั้นมีชื่อสามัญว่า "Rose" ชื่อทางพฤกษาศาสตร์ว่า


"Rosa hybrids" และมีชื่อวงศ์ว่า "Rosaceae" ขยายพันธุ์โดยการ
ตอนกิ่ง ลักษณะของกุหลาบนั้นมีทั้งไม้พุ่มและไม้เลื้อย ลำต้นและกิ่งจะมีหนาม ส่วนดอกของกุหลาบจะมีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกมีลักษณะใหญ่ มีไม่ต่ำกว่า 5 กลีบ กุหลาบนั้นมีกลิ่นหอมชวนดม และมีหลายสี เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ อีกทั้งยังมีหลายชนิดด้วย

          ซึ่งคำว่ากุหลาบนั้นมาจากคำว่า "คุล" ที่ในภาษาเปอร์เซียแปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ" โดยในภาษาฮินดีก็มีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" ก็หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเราเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก

          โดยกุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกมาแต่โบราณ ว่ากันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อ 70 ล้านปีมาแล้ว และเคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแต่ก่อนกุหลาบนั้นเป็นกุหลาบป่าและมีรูปร่างไม่เหมือนในทุกวันนี้ แต่เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์จนขยายเป็นพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย

          ตามประวัติศาสตร์เล่าว่ากุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิ์ ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอกส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน เพราะชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมาก แม้ว่าจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังลงทุนสร้างสถานที่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย เพราะสำหรับชาวโรมันแล้วดอกกุหลาบนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน อีกทั้งชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เป็นทั้งของขวัญ และเป็นดอกไม้สำหรับทำมาลัยต้อนรับแขก รวมถึงเป็นดอกไม้สำหรับงานฉลองต่าง ๆ แถมยังเป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ และยาได้อีกด้วย

          และเมื่อเอ่ยถึงดอกกุหลาบแล้ว หลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงเรื่องความรัก เพราะกุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความโรแมนติก โดยมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงามและความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม

          แม้จะไม่มีการบันทึกอย่างชัดเจนว่าดอกกุหลาบนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้านเราตอนไหน แต่จากบันทึกของ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้บันทึกไว้ว่าเห็นกุหลาบที่กรุงศรีอยุธยา และในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศกสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ก็ได้มีการกล่าวถึงกุหลาบเอาไว้ และยังมีตำนานดอกกุหลาบของไทยที่เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทนะพาธา ในเรื่องเล่าถึงเทพธิดาองค์หนึ่งชื่อ "มัทนา" ซึ่งได้มีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อ "สุเทษณะ" ซึ่งพระองค์ทรงหลงรักเทพธิดา "มัทนา" มาก แต่นางไม่มีใจรักตอบ จึงถูกสาปให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ จึงกลายเป็นตำนานดอกกุหลาบแต่นั้นมา

          โดยดอกกุหลาบนั้นสามารถสื่อความหมายได้หลายอย่าง อาทิ 
 
  สีกุหลาบสื่อความหมาย

           สีแดง สื่อความหมายถึง ความรักและความปราถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอีรอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ

          สีชมพู สื่อความหมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์

          สีขาว สื่อความหมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ มิตรภาพ และความสงบเงียบ และนำโชคมาให้แก่หญิงหรือชายเช่นเดียวกับกุหลาบแดง

          สีเหลือง สื่อความหมายถึง เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอนะ

          สีขาวและแดง สื่อความหมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

          สีส้ม สื่อความหมายถึง ฉันรักเธอเหมือนเดิม


จำนวนกุหลาบสื่อความหมาย
          1 ดอก รักแรกพบ
          2 ดอก แสดงความรู้สึกที่ดีให้กัน
          3 ดอก ฉันรักเธอ
          7 ดอก คุณทำให้ฉันหลงเสน่ห์
          9 ดอก เราสองคนจะรักกันตลอดไป
          10 ดอก คุณเป็นคนที่ดีเลิศ
          11 ดอก คุณเป็นสมบัติชิ้นที่มีค่าชิ้นเดียวของฉัน
          12 ดอก ขอให้เธอเป็นคู่ของฉันเพียงคนเดียว
          13 ดอก เพื่อนแท้เสมอ
          15 ดอก ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ
          20 ดอก ฉันมีความจริงใจต่อเธอ
          21 ดอก ชีวิตินี้ฉันมอบเพื่อเธอ
          36 ดอก ฉันยังจำความหลังอันแสนหวาน
          40 ดอก ความรักของฉันเป็นรักแท้
          99 ดอก ฉันรักเธอจนวันตาย
          100 ดอก ฉันอุทิศชีวิตนี้เพื่อเธอ
          101 ดอก ฉันมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น
          108 ดอก คุณจะแต่งงานกับฉันไหม
          999 ดอก ฉันจะรักคุณจนวินาทีสุดท้าย 


ความหมายอื่น

           กุหลาบแดงเข้ม (สีเหมือนไวน์แดง) "เธอช่างมีเสน่ห์งามเหลือเกิน"

           กุหลาบตูมสีแดง "ฉันเริ่มรักเธอแล้วจ้ะ"

           กุหลาบบานสีแดง "ฉันรักเธอเข้าแล้ว"

           กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว "ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว"

           กุหลาบตูมสีขาว "เธอช่างไร้เดียงสาน่าทะนุถนอมเหลือเกิน ฉันรักเธอ"

           กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว "เสน่ห์ของเธอมันเริ่มลดน้อยถอยลงแล้วนะจ๊ะ"

          กุหลาบตูม สื่อความหมายถึง ความงามและความเยาว์วัย

          และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวที่น่าสนใจของดอกกุหลาบ